เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์piyapat
ความหวังจุดเล็กๆในเรื่อง EXIT
  • ภาพยนตร์ สัญชาติเกาหลี เรื่องฝ่าหมอกพิษภารกิจรักหรือEXIT ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยไปเมื่อเร็วๆนี้ นำแสดงโดยโจจองซอก(ยงนัม) ยุนอา girls’generation(อึยจู) เรื่องย่อของหนังเรื่องนี้คือ ยงนัมได้เดินทางไปจัดงานวันเกิดให้กับคุณย่าของเขาและได้กลับไปพบกับอึยจูผู้หญิงที่เขาเคยแอบชอบสมัยเรียนมหาวิทยาลัยซึ่งเธอทำงานเป็นผู้จัดการร้านอยู่ แต่คืนนั้นดันเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมีหมอกพิษอันตรายเข้าปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองอย่างรวดเร็ว

    ตอนเริ่มเรื่องของหนังนั้นได้แสดงปัญหาแรกของตัวละครยงนัม ที่เรียนจบแล้วทั้งอายุเริ่มมากแล้วแต่ก็ยังไม่มีงานทำหรือแฟนเลย คนรอบข้างคิดว่าเขาไม่เอาไหนส่วนตัวของเขาก็เสียความมั่นใจและคุณค่าของตัวเองในจุดนี้ด้วยในฉากที่มีการพูดคุยกันของยงนัมกับเพื่อนแล้วมีการส่งข้อความเตือนแผ่นดินไหวนั้นเพื่อนของเขาบอกว่า สถานการณ์ตอนนี้ของพวกเราอันตรายยิ่งกว่าแผนดินไหวสะอีก(จุดนี้จำไม่ได้แม่นมากนักขออภัยด้วย)

    มันคือการแสดงของวิกฤตทั้งในสังคมปัจุบันและในช่วงอายุของคนที่ต้องเจอความคาดหวังของสังคมและครอบครัวที่ต้องมีครอบครัวและงานทำที่มั่นคง สภาพสังคมที่งานหายากขึ้นทุกวัน

              ช่วงต่อมาที่ยงนัมได้พบกับอึยจู ผู้หญิงที่เขาเคยชอบทำงานอยู่เขาได้โกหกเรื่องงานของเขาออกไปเพราะเขาไม่อยากรู้สึกแย่กับตัวเองและกังวนในสายตาที่เธอจะมองเขา  ปัญหาที่สองตัวของอึยจูเองก็มีปัญหาของตัวเองที่ถึงแม้จะได้เป็นถึงผู้จัดการแล้วแต่ก็ยังมีศักดิ์ไม่ต่างกับพนังงานธรรมดาเท่าไหร่จากที่เธอเล่าถึงแม้อย่างนั้นเธอก็ยังตั้งใจทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่ ทุกคนอาจจะรู้มาบ้างว่าเกาหลีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าสังคมชายเป็นใหญ่และมีการล่วงละเมิดต่อผู้หญิงบ่อยครั้ง(ซึ่งสังคมไทยก็มีหากต้องการอ่านเรื่องนี้เพิ่มขึ้นขอแนะนำหนังสือเรื่องคิมจียอง เกิดปี 82) ฉากที่หัวหน้าของอึยจู พยายามขอ?แบบบังคับเป็นแฟนกับอึยจูก็แสดงความอึดอัดในตัวละครไม่น้อยเพราะถึงเธอพยายามปฎิเสธอย่างชัดเจนแต่เหมือนเขาก็ยังไม่สนใจที่จะฟังและใช้ตำแหน่งงานที่สูงกว่าคอยกดดันเธอ

              เมื่อหมอกพิษเข้าปกคลุมไปทั่วเมืองตัวละครพยายามที่จะขึ้นไปที่สูงเพื่อเอาชีวิตรอด ตัวยงนัมเองมีเหตุการ์ณบังคับให้ต้องช่วยเหลือครอบครัวของเขาเขาพยายามหาวิธีที่จะช่วยเหลือคนทั้งหมดด้วยทางรอดเดียวหรือไต่กำแพงขึ้นไปในส่วนนี้ตัวอึยจูเองพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยการคิดหาวิธีให้เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยมาช่วยพวกเขาทั้งหมดทุกคนร่วมมือกันทำสัญญาณ



              เกิดเหตุการ์ณที่ต้องมีการเสียสละเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยนั้นบรรจุคนไม่พอตัวยงนัมเองเสียสละให้ครอบครัวไปก่อนส่วนตัวอึยจูเสียสละในเหตุผลว่าให้ลูกค้าไปก่อนแต่เมื่อจำนวนคนที่น้อยอันตรายการกลับมาช่วยจึงต่ำลง หมอกพิษเริ่มขึ้นสูงขึ้นเขาและเธอจึงต้องดิ้นรนเพื่อที่จะไปให้สูงขึ้น

    ช่วงนี้เป็นช่วงตื่นเต้นของหนังแต่ก็ไม่บีบคั้นผู้ชมจนเกินไปทำให้เกิดความรู้สึกมีความหวังอยู่เสมอมีทริคเกี่ยวกับวิธีเอาตัวรอดเข้ามาเรื่อยๆและใจที่ไม่ยอมแพ้ของทั้งคู่ทำให้เราสนุกและเอาใจช่วยมากกว่าความรู้สึกอึดอัด

              ปัญหาที่เพิ่มขึ้นเมื่อหมอกไม่มีท่าทีจะสลายไปง่ายๆรัฐบาลจึงให้ทางแก้ปัญหาชั่วคราวให้พออยู่ได้สักพักแต่ไม่สามารถรอดได้จากความหวังที่ต้องรอคนมาช่วยพวกเขาจึงต้องพิ่งพากันเพื่อไปที่ทางรอดเองเกิดเหตุการ์ณหน้ากากที่มีอายุการใช้งานจำกัดหมดอายุเหลือเพียงแค่อันเดียวแต่กับมีสองคนที่ต้องใช้เมื่อตัวละครผ่านเหตุการ์ณนี้ไปความไว้ใจที่เริ่มสร้างขึ้นมาก็กลายเป็นเชื่อใจกันอย่างสนิทใจ

              บททดสอบของพวกเขายังไม่หมดแค่นั้นเมื่อเขาไปตึกที่สูงขึ้นโอกาสรอดจึงมาถึงแล้ว แต่ว่าพวกเขาดันต้องเลือกระหว่างตัวเองรอดหรือว่าให้ผู้อื่นรอดอีกครั้งตัวละครมีความกัดดันมากขึ้นตัวเองก็อยากจะรอดแต่จะให้ทิ้งคนอีกฝั่งไว้พวกนั้นก็จะไม่มีทางรอดแน่นอนซึ่งสุดท้ายเขาก็เลือกให้คนอื่นรอดอีกครั้ง

              ช่วงสุดท้ายของหนังทั้งคู่เจอทางสุดท้ายที่ต้องไปตึกสุดท้ายที่พวกเข้าจะต้องปีนทั้งอยู่สูงและอยู่ไกลแต่ก็คือทางรอดเดียวไร้การช่วยเหลือจากใครพวกเขาวิ่งไปเรื่อยๆผ่านสิ่งต่างๆเพื่อไปให้ถึงจุดนั้นโดนมีแค่โดรนถ่ายทอดสดและผู้ชมที่ปลอดภัยแล้วเฝ้ามองเท่านั้น สุดท้ายพวกเขาก็ทำได้เขาไปถึงที่นั้นจุดนั้นที่ทำให้เขารอดโดนไม่ได้ทิ้งคนระหว่างทางไป

           

              เราคิดว่าประเด็นความหวังน่าสนใจดีส่วนตัวชอบในความเสียสละของตัวละครการเล่าเรื่องแบบไม่อึดอัดบีบคั้นซึ่งหนังเอาชีวิตรอดส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องเป็นเช่นนั้น ตัวละครทำให้รู้สึกว่าความหวังมันมีอยู่ตลอดแม้ชีวิตพวกเขาในเรื่องก็ไม่ได้ดีมากนักได้พบความลำบากจากสังคมจากสิ่งต่างๆอยู่ด้วยซ้ำสังคมมันแทบไม่เอื้อให้คนที่อยู่ต่ำลงมาเลย มีตอนฉากนึงที่ยงนัมพูดกับอึยจูว่าถ้ารอดไปได้เขาจะไปทำงานที่ตึกนั้นตึกที่สูงที่สุดที่มองเห็นในตอนนั้นถ้าทำงานที่นั้นจะต้องมีคนมาช่วยเขาเร็วแน่นอน พวกเขาต้องพยายาม พยายามอย่างหนักเพื่อความคาดหวังของสังคม แต่เขาเชื่อว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นและพวกเขาก็ช่วยกันทำให้ดีขึ้นพอดูจบแล้วรู้สึกว่าสังคมมันคาดหวังและบังคับเราอยู่ตลอดทั้งๆที่มันก็ทำให้เราสิ้นหวังนะ ทางเลือกมันอาจมีไม่มากแต่ถ้าประคองกันไปโดยไม่ทิ้งใครไว้มันก็คงจะดีมันก็คงสามารถช่วยสร้างสังคมที่ดีขึ้น

     

     

    *ถ้ามีความผิดพลาดใดขออภัยด้วย นี่เป็นแค่ความเห็นที่มีต่อหนังส่วนหนึ่งเท่านั้น

    *ขออภัยหากมีคำผิด ถ้ามีความคิดเห็นใดอยากให้แก้ไขหรือแนะนำสามารถบอกมาได้

               

     

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in